=> อำเภอภูกามยาว

คำขวัญประจำอำเภอภูกามยาว

“ภูกามยาวดอยงาม ดินแดนสามพระธาตุ ประวัติศาสตร์เมืองเก่า อู่ข้าวลุ่มน้ำอิง”

แหล่งท่องเที่ยวอำเภอภูกามยาว

อ่างเก็บน้ำร่องติ้ว

มีเนื้อที่ประมาณ 400 ไร่

ตั้งอยู่บ้านร้อง หมู่ที่ 6 ตำบลดงเจนและบ้านจำปา หมู่ที่ 17 ตำบลห้วยแก้ว

บริเวณหลังที่ว่าการอำเภอภูกามยาว

มีทัศนียภาพที่งดงาม

โดยเฉพาะในช่วงยามเย็น มองเห็นดวงอาทิตย์ตกที่สวยงาม

ก่อสร้างโดยกรมชลประทาน เมื่อปี 2531  โดยมีวัตถุประสงค์การก่อสร้างเพื่อเก็บกักน้ำ

ทำการเกษตร เป็นแหล่งน้ำ สำหรับผลิตน้ำประปาหมูบ้าน

วัดพระธาตุภูขวาง

ตั้งอยู่บ้านม่วงคำ หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยแก้ว  อำเภอภูกามยาว

ห่างจากที่ว่าการอำเภอภูกามยาว ประมาณ 5  กิโลเมตร

ก่อสร้างในสมัยพระยาศรีจอมธรรมิกราช

บรรจุพระธาตุมือขวา(ทักษิณหัตถอัฐิธาตุ)สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ณ ดอยภูขวาง   ฐานกว้าง  5 เมตร  สูง 1 หลา

วัดพระธาตุปูปอ

ตั้งอยู่บ้านสันป่ากอก หมู่ที่ 13 ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา

อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอภูกามยาว ประมาณ  9 กิโลเมตร

ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2052  ก่อสร้างหลังวัดศรีโคมคำ 18 ปี

ตามตำนานเล่าว่า  วัดพระธาตุปูปอ  เป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดศรีโคมคำ

วัดพระธาตุดอยจุก

ตั้งอยู่บ้านกว้านสันติสุข หมู่ที่ 13 ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว

อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอภูกามยาว ประมาณ 9 กิโลเมตร

ตำนานเล่าว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จมาเผยแพร่พุทธศาสนา

มาถึงบริเวณดอยจุก พระองค์ได้ทำนายว่าต่อไปภายภาคหน้าจะมีผู้มาสร้างเจดีย์ จะปรากฏชื่อว่า ดอยจุกหรือดอยหยุด

วัดพระธาตุดอยจุก ก่อสร้างโดยผู้ไดหรือก่อสร้างเมื่อได ไม่ปรากฎหลักฐาน

พระธาตุภูกามยาว

ตั้งอยู่บ้านม่วงคำ หมู่ที่ 14 ตำบลห้วยแก้ว  อำเภอภูกามยาว

อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอภูกามยาว ประมาณ 2 กิโลเมตร

มีการค้นพบหลักฐานโบราณสถานหลายแห่งตลอดจนซากปรักหักพังของอิฐ

หิน ศิลาแลง เป็นจำนวนมาก

มีผู้เฒ่าเล่าขานกันว่าเคยพบเห็นลูกแก้วหรือดวงไฟลอยมาเล่นแก้วกับฐานเจดีย์เก่าในวันขึ้น 15 ค่ำ

พระธาตุลานเตี้ย

ตั้งอยู่บ้านสันต้นแหน หมู่ที่ 9 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอภูกามยาว

อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเอภูกามยาว  20 กิโลเมตร

ตามความเชื่่อของชาวบ้านปรากฎความได้ว่า เดิมไม่มีใครทราบชื่อแน่ชัด

ส่วนชื่อว่าพระธาตุลานเตี้ยมาตั้งชื่อภายหลัง ประมาณ 10 ปี ผ่านมา

ตั้งโดยพระภิกษุชื่อช่วง ซึ่งเป็นพระธุดงค์มาจากอิสานเหตุที่ตั้งชื่อว่า

"ลานเี้ตี้ย"เนื่องมาจากมีต้นลานต้นเตี้ยๆขึ้นในบริเวณวัดร้างแห่งนี้จำนวนหลายต้น

ปัจจุบันเป็นวัดร้างไม่มีพระจำพรรษาแต่ก็ยังเป็นสถานที่เคารพและสักการระบูชา

ของชาวบ้านแถบนี้อยู่และมีประเพณีสักการะบูชาอยู่ทุกปี